วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

หน่วยที่8

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอผลงาน


............การนำเสนอผลงาน
........ หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น หรือ ความต้องการไปสู่ผู้รับสาร โดยใช้เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมายของการนำเสนอ
...........หลักการนำเสนอผลงาน
 ....... หลักการพื้นฐานของการนำเสนอผลงานมีจุดเน้นสำคัญคือ
 - การดึงดูดความสนใจ      โดยการออกแบบให้สิ่งที่ปรากฏต่อสายตานั้นชวนมองและมีความสบายตาสบายใจเมื่อมอง
- ความชัดเจนและความกระชับของเนื้อหา      ข้อความต้องสั้นแต่ได้ใจความชัดเจน  ภาพประกอบต้องมีส่วนสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับข้อความที่ต้องการสื่อความหมาย
 - ความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย


.........เครื่องมือที่ใช้ในการนำเสนอผลงาน

.......ก่อนยุคคอมพิวเตอร์     
การนำเสนอผลงานจะใช้จะใช้เครื่องมืออยู่ 2  อย่างคือ
   - เครื่องฉายสไลด์ (Slide projector)

      ต้องใช้กล้องถ่ายรูปใส่ฟิล์มพิเศษที่ล้างออกมาแล้วเป็นภาพสำหรับฉายโดยเฉพาะ ซึ่งต้องนำฟิล์มนั้นมาตัดใส่กรอบพิเศษจึงจะนำมาเข้าเครื่องฉายได้
 - เครื่องฉายแผ่นใส (Overhead projector)
      เป็นเครื่องที่ใช้งานทั่วไป ต้องใช้กับแผ่นใสที่ตามปกติจะมีขนาดประมาณ 8 นิ้วคูณ 10 นิ้ว ซึ่งมีสองแบบ คือแบบที่ใช้ปากกา (พิเศษ) เขียน กับแบบใช้กับเครื่องถ่ายเอกสาร 

..........
ยุคคอมพิวเตอร์  
.......เมื่อมาถึงยุคคอมพิวเตอร์ (ปัจจุบัน) เครื่องมือในการนำเสนอผลงานก็เปลี่ยนไป  เครื่องมือหลักที่ใช้ก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์
  
 - เครื่องฉายภาพจากคอมพิวเตอร์ (Data projector) 
 - เครื่องฉายภาพ  3  มิติ       


..........รูปแบบการนำเสนอผลงาน
.......ในปัจจุบันรูปแบบการนำเสนอผลงานโดยใช้คอมพิวเตอร์ มี 2 รูปแบบคือ
- การนำเสนอแบบ
Slide Presentation โดยใช้โปรแกรม
PowerPoint
- การนำเสนอแบบ Web page   โปรแกรมที่ใช้สร้างมีหลากหลาย เช่น การเขียนด้วยภาษา  HTML ,  Front page, Dreamweaver, Namo เป็นต้น

...........การเตรียมการนำเสนอ

 ......การนำเสนอไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามถ้าไม่มีการเตรียมพร้อมก็จะก่อให้เกิดความผิดพลาดได้งานหรือไม่เป็นไปดังที่ตั้งจุดมุ่งหมายไว้ ฉะนั้นผู้นำเสนอควรจะต้องเตรียมการให้พร้อมก่อนที่จะนำเสนอทุกครั้ง  มีขั้นตอนดังนี้
1. ศึกษาข้อมูล    ผู้นำเสนอต้องศึกษาข้อมูลต่าง ๆ คือ ศึกษาเรื่องที่จะนำเสนอ ศึกษาวิเคราะห์ผู้รับฟัง ศึกษาวิเคราะห์จุดมุ่งหมาย ศึกษาโอกาส เวลาและสถานที่ที่จะนำเสนอ
2 .วางแผนการนำเสนอ     ผู้นำเสนอควรวางแผนที่จะนำเสนอ คือ วางรูปแบบวิธีการนำเสนอว่าต้องการนำเสนอแบบเป็นทางการ หรือแบบไม่เป็นทางการ วางแนวทางในการแก้ปัญหาและอุปสรรค วางโครงการนำเสนอ เป็นต้น
3. จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์
    การบรรยายเพียงอย่างเดียวอาจไม่ดึงดูดความสนใจจากผู้ฟัง ควรมีอุปกรณ์ที่นำมาใช้ประกอบการนำเสนอ ที่นิยมใช้กัน คือ อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการบรรยาย เช่น เครื่องฉายแผ่นใส วีดิทัศน์ ภาพยนตร์ ภาพนิ่ง แผ่นใส เป็นต้น และอุปกรณ์ที่ใช้เสริมการบรรยาย เช่นแผ่นพับ หนังสือ รูปภาพ เอกสารประกอบ เป็นต้น
4. เตรียมความพร้อมของสถานที่
    การนำเสนอควรตระเตรียมความพร้อมของสถานที คือ จัดห้องสำหรับการนำเสนอ ควรเลือกให้เหมาะสมกับจำนวนผู้ฟัง

...........ปัจจัยที่จะทำให้การนำเสนอมีประสิทธิภาพ
.......การนำเสนอจะมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ก็จะขึ้นอยู่กับวิธีการจัดดำเนินการในการนำเสนอ ปัจจัยที่ทำให้การนำเสนอมีประสิทธิภาพ ดังนี้
- เนื้อหาข้อมูล    โดยการจัดข้อมูลอย่างเป็นระบบ จัดทำเค้าโครงการนำเสนอ และข้อมูลต้องมีความสมบูรณ์ถูกต้อง
- ผู้นำเสนอ   ความมีความรู้ในเรื่องที่นำเสนอ ศึกษาวิเคราะห์ผู้ฟัง มีบุคลิกภาพการวางตัวที่เหมาะสม มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เป็นต้น
 - การดำเนินการนำเสนอ     ควรคำนึงถึงเทคนิคและวิธีการนำเสนอที่เหมาะสม ใช้อุปกรณ์ช่วยในการนำเสนอ รวมถึงการมีศิลปะใน
การนำเสนอ เป็นต้น


มีวัตถุประสงค์ คือ

1. ให้ผู้ชมเข้าใจสาระสำคัญของการนำเสนอ

2. ให้ผู้ชมเกิดความประทับใจ ซึ่งจะนำไปสู่ความเชื่อถือในผลงานที่นำเสนอ

หลักการขั้นพื้นฐานของการนำเสนอผลงาน

1.1 การดึงดูดความสนใจ

1.2 ความชัดเจนและความกระชับของเนื้อหา

1.3 ความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย

2. เครื่องมือที่ใช้ในการนำเสนอผลงาน

ก่อนยุคคอมพิวเตอร์

-          เครื่องฉายสไลด์(Slide  projector)
-          เครื่องฉายแผ่นใส (Overhead  projector)

ยุคคอมพิวเตอร์   เครื่องมือหลัก  คือ

-เครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องฉายภาพจากคอมพิวเตอร์(Data  projector)

ข้อพิจารณาในเรื่องของคำบรรยายหรือบทพากย์หรือเสียงพูด

                   1. การบรรยายสด  เหมาะสำหรับประชุมหรือสัมมนาที่ต้องการให้ผู้ชมมีส่วนร่วม

                  2. การพากย์  เหมาะสำหรับเนื้อหาที่สามารถถ่ายทอดได้โดยไม่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของผู้ชม

3. รูปแบบการนำเสนอ

 3.1 การนำเสนอแบบ Slide Presentation

3.1.1 โดยใช้โปรแกรม  Power   Point

เป็นโปรแกรมนำเสนอผลงานในชุด Microsoft  Office  เป็นโปรแกรมที่ใช้ง่ายมากมีแม่แบบให้เลือกใช้หลายแบบ   องค์ประกอบหลักของแต่ละหน้า คือ  หัวข้อ(Little)  กับส่วนเนื้อหาหลัก(Body  text)

3.1.2 โดยใช้โปรแกรม ProShow Gold 

โปรแกรม ProShow Gold  คือ โปรแกรมสำหรับเรียงลำดับภาพเพื่อนำเสนอแบบมัลติมีเดีย  ที่มีความสามารถสร้างผลงานได้ในระดับมืออาชีพ  ด้วยเทคนิคพิเศษมากมาย  ใช้งานง่าย  เหมาะสำหรับการนำเสนอสื่อการเรียนการสอน

3.1.3 โปรแกรม  Flip  Album

โปรแกรม  Flip  Album   6  Pro  เป็นแปรแกรมสำเร็จรูป  เป็นโปรแกรมที่นิยมใช้สร้าง  E-book  ซึ่งย่อมาจากคำว่า electronic  book  หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์  ซึ่งจัดทำขึ้นจากระบบคอมพิวเตอร์

3.2 รูปแบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) Computer  Assisted  Instruction

CAI  คือ  โปรแกรมบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  ที่มีหน้าที่เป็นสื่อการเรียนการสอนเหมือนแผ่นใส  สไลด์  หรือวีดีทัศน์  ที่ใช้ประกอบการเรียนการสอน  ซึ่งเข้าใจง่ายและตรงตามวัตถุประสงค์ของบทเรียนนั้นๆ

การจัดทำ CAI ที่ดีนั้น  ต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ  คือ

1. นักวิชาการ

2.  นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์

3.  นักสร้างสรรค์

4. นักศิลปะ

คอมพิวเตอร์ช่วยสอน   Computer  Assisted  Instruction  หมายถึง  การจัดการเรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน

ประโยชน์ของการใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดการเรียนรู้

1. ใช้เพื่อจัดการในชั้นเรียน

- เก็บข้อมูลสถิติทั้งระเบียนสะสมของผู้เรียน

- ใช้ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง

- สร้างเครือข่ายฐานข้อมูลของผู้เรียน

2. ใช้ในการจัดการเรียนการสอน

การนำเสนอผลงานของผู้สอน

- ในลักษณะสื่อประสม

- ในลักษณะการจำลองเหตุการณ์หรือการจำลองแบบ

3.2.1 การใช้โปรแกรม Authorware

Authorware  เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่นิยมนำมาสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมากที่สุด  เพราะใช้งานง่าย  เข้าใจได้ง่ายด้วย

3.2.2 การใช้ระบบจัดการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ Moodle

Moodle  ย่อมาจาก  Modular  Object-Oriented  Dynamic  Learning  Environment  คือ  ระบบจัดการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ให้มียรรยายเหมือนในห้องเรียน  หรือเรียกว่า LMS  (Learning  Management  System)  หรือระบบจัดคอร์สการเรียนการสอน CMS(Course Management  System) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

3.3 รูปแบบ Social  Network

Social  Network  หมายถึง  สังคมออนไลน์ที่จะช่วยหาเพื่อนบนโลกอินเทอร์เน็ตได้ง่ายๆ สามารถสร้างพื้นที่ส่วนตัวขึ้นมา  และได้ทำความรู้จักกับเพื่อนหรือคนอื่นๆได้

การใช้ Social  Network  เพื่อการเรียนการสอน

3.3.1  การใช้เว็บบล็อก(Weblog)  เพื่อการเรียนการสอน

วัตถุประสงค์การใช้เว็บบล็อก(Weblog)  เพื่อการเรียนการสอน

1. เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน

2. เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมเนื้อหา

3. เพื่อเป็นสื่อในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่น

4. เพื่อเป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงานของผู้เรียน

5. เพื่อการติดตามการปฏิบัติงานของผู้เรียน

6. เพื่อเป็นการเชื่อมโยงในการศึกษาค้นคว้ากับเว็บไซต์อื่นๆ

7. เพื่อความสนุกเพลิดเพลินของผู้เรียน

8. เพื่อฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ในการแสวงหาแหล่งเรียนรู้ต่างๆ

ประโยชน์ของ  Weblog

จุดเด่นที่สุดของบล็อก  คือ  มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง  ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อกและผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย  ผ่านทางระบบ  Comment  ของบล็อกนั่นเอง

  1. เป็นสื่อที่ใช้ในการแสดงความคิดเห็น  ความรู้สึกของผู้เขียนในเรื่องต่างๆ
  2. เป็นเครื่องมือช่วยในด้านธุรกิจ  เช่น  การโฆษณา  ประชาสัมพันธ์
  3. เป็นแหล่งความรู้ใหม่ๆที่ถูกต้องและชัดเจน  จากผู้มีความรู้เฉพาะด้านนั้นๆ
  4. ทำให้ทันต่อเหตุการณ์ในโลกปัจจุบัน
  5. ไม่ต้องใช้ความรู้ทางคอมพิวเตอร์ชั้นสูงก็สามารถทำได้
  6. ไม่ต้องขอพื้นที่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเหมือนเว็บไซต์ทั่วไป
  7. สามารถบรรจุภาพนิ่ง  เสียง  และภาพเคลื่อนไหวได้
  8. สามารถใช้งานหรือปรับแต่งให้สวยงามได้ด้วยตนเอง
  9. สำหรับ  Weblog ของ Blogger  สามารถบรรจุบทความได้มากถึง  999 บทความ
  10. สามารถสร้างสรรค์องค์ประกอบต่างๆที่เป็นประโยชน์กับการทำงานได้หลายอย่าง  เช่น  ตัวเลขนับผู้ชม
  11. สามารถเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่นๆได้ตามต้องการ




    อ้างอิง :
  - http:// cdn.learners.in.th/assets/media/files/000/.../original_2_21072009.ppt